คล็ด (ไม่ ) ลับสำหรับการเลือกแหวนทองแต่งงาน

Last updated: 21 ก.ค. 2559  |  5768 จำนวนผู้เข้าชม  | 

คล็ด (ไม่ ) ลับสำหรับการเลือกแหวนทองแต่งงาน

   




คู่รักที่จะเข้าพิธีหมั้นหรือแต่งงานในเร็ววันนี้ คงหนักใจไม่น้อยในการเลือก แหวนหมั้น และ แหวนแต่งงาน
 ที่เหมาะสมและสวยที่สุดสำหรับงานสำคัญกับคนที่รักมากที่สุดในชีวิต เพราะไม่รู้ว่าจะเลือกเป็นแบบไหน ดังนั้น วันนี้กระปุกเวดดิ้งเลยอาสามาบอกเคล็ดลับเกี่ยวกับการเลือก  หนึ่งในแหวนแต่งงานยอดนิยมมาฝากกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ตามเราไปดูกันเลยจ้า

          เครื่องประดับประเภท แหวนแต่งงาน ที่คู่รักหลายคู่มาเป็นแหวนแต่งงาน สัญลักษณ์แทนใจและให้ความรู้สึกผูกพันนั้น อาจเพราะสวมใส่ได้ง่าย อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงรสนิยม บุคลิก และความเป็นตัวของคุณเองด้วย โดยแหวนทองมีความบริสุทธิ์ตามเกณฑ์มาตรฐานโลก คือ ใช้ทองคำแท้เป็นส่วนผสม 90%, 75%, 58.5% และ 37.5% มาตรฐานส่งออก

          โดยอันดับแรกในการเลือก คือ ต้องลองพิจารณาว่า แหวนทองคำ นั้นมีกรรมวิธีการผลิตและการเล่นลวดลายอย่างไร เช่น การพ่นทราย หรือแลลายให้ดูด้าน เพื่อตัดกับทองคำอีกสีที่ขัดมันแวววาว เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วทองคำที่นำมาทำเป็นทองรูปพรรณนั้น มักนำมาทำเป็นโลหะผสมกับโลหะชนิดอื่น เช่น เงิน นิกเกิล ทองแดง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทานหรือมีการปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพอื่น ๆ เช่น สี จุดหลอมเหลว ตัวอย่างเช่น ทองกะรัต (Karat Gold) ได้จากการผสมทองคำบริสุทธิ์กับเงินและทองแดง ทองคำขาว (White Gold) ได้จากการผสมทองคำบริสุทธิ์กับพัลลาเดียม นิกเกิลและสังกะสี และทองสีชมพู (Pink Gold) ได้จากการผสมทองคำบริสุทธิ์ กับเงินและทองแดง ดังนั้น ปริมาณทองคำหรือความบริสุทธิ์ของทองคำนี้จะแตกต่างกันไปตามลักษณะของการใช้งานและความต้องการของแต่ละประเทศ

          วิธีการสังเกตการณ์เลือกซื้อทองรูปพรรณ เช่น สร้อยทอง, แหวน, จี้ มีดังนี้...

         ขนานกะรัตของทองรูปพรรณ

          เป็นที่ทราบกันดีว่าทองรูปพรรณจะอยู่ในรูปของทองกะรัตไม่ว่าจะเป็น 10 k, 14 k, 18 k และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดก็จะมีคุณสมบัติของสีแตกต่างกันไป และด้านราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามขนาดกะรัตของทองรูปพรรณเช่นกัน      

         น้ำหนักของทองรูปพรรณ

          น้ำหนักเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณาเลือกทอง เพราะน้ำหนักจะเป็นตัวบอกถึงปริมาณของทองคำที่ใส่ลงไปในทองกะรัตต่าง ๆ ซึ่งน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้ราคาและความแข็งแรงของทองรูปพรรณสูงตามไปด้วย เพราะว่าน้ำหนักทองที่เพิ่มขึ้นจะไปช่วยลดการโค้งงอและการหักได้

          ลักษณะการออกแบบ

          การออกแบบทองรูปพรรณนั้นจะเน้นถึงความพิเศษ, ความประณีต, การสลักลวดลายและความเรียบร้อย อีกทั้งยังมีการเพิ่มลักษณะของพื้นผิวเข้าไป ทั้งแบบผิวเงา, แบบผิวด้าน และแบบผิวซาติน ซึ่งเราต้องมีค่าใช่จ่ายเพิ่มขึ้นตามการออกแบบ, ตามสีต่าง ๆ ของทอง และรูปแบบใหม่ ๆ ที่ผู้ผลิตใส่เข้าไปอีกด้วย

         ความปราณีต

          ปัจจุบันการผลิตทองรูปพรรณส่วนใหญ่จะผลิตด้วยเครื่องจักร เพราะจะได้ทองรูปพรรณที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน แต่ก็มีการฝีมือที่ผลิตออกมาให้เราได้เลือกซื้อกันมากมายเช่นกัน เพราะงานฝีมือยังเป็นที่นิยมของท้องตลาด เนื่องมากจากลวดลายที่สวยงามกว่าทองรูปพรรณทั่วไป ดังนั้น จุดแรกที่ควรสังเกต คือ บริเวณจุดเชื่อมต่อ , ข้อต่อ และตัวสลัก เพราะว่าทั้งสามจุดนี้มักจะแตกหักได้ง่าย ดังนั้น ควรตรวจสอบดูให้แน่ใจ พร้อมตรวจสอบแหล่งที่มาของทองที่นำมาผลิตทองรูปพรรณ ซึ่งอาจมีการประทับตราบนตัวทองรูปพรรณซึ่งแหล่งที่มาต่างกันราคาก็จะต่างกันไปด้วย

          คุณสมบัติของทองคำ

          ต้องมีความแวววาวเสมอ ทองคำจะไม่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน เมื่อสัมผัสถูกอากาศสีของทองจะไม่หมองและไม่เกิดสนิม มีความอ่อนตัว เพราะทองคำเป็นโลหะที่มีความอ่อนตัวมากที่สุด เป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี สะท้อนความร้อนได้ดี อีกด้วย

          หน่วยน้ำหนักทองคำ

          กรัม : ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ ถือว่าเป็นหน่วยสากล

         โทลา : ใช้กันทางประเทศแถบตะวันออกกลาง อินเดีย ปากีสถาน

          ตำลึง : ใช้ในประเทศที่ใช้ภาษาจีน เช่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง

          บาท : ใช้ในประเทศไทย

         ชิ : ใช้ในประเทศเวียดนาม

          อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ชายส่วนใหญ่แล้ว แหวนแต่งงาน แทบจะเป็นเครื่องประดับชิ้นเดียวที่สามารถสวมใส่นอกจากนาฬิกาข้อมือ เพราะฉะนั้น การเลือกรูปแบบจึงต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้น แหวนทอง จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดี ๆ แถมแหวนทองที่นำมาเป็นแหวนแต่งงานยังถูกออกแบบมาให้สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของความรักได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ ^^

 

Powered by MakeWebEasy.com